ประเด็นสำคัญ
- การใช้ไหมขัดฟัน ช่วยกำจัดคราบสะสม ในส่วนที่การแปรงฟัน เข้าไม่ถึง
- เทคนิคที่ถูกต้อง ช่วยรักษาสุขภาพเหงือก และฟันให้แข็งแรง
- อุปกรณ์ขัดฟันแต่ละชนิด ถูกออกแบบมา เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน
การใช้ไหมขัดฟัน มักเป็นสิ่งที่ถูกมองข้าม ทั้งที่จริงแล้ว มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ในการรักษาสุขภาพช่องปาก การแปรงฟันเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถเข้าถึงซอกฟันที่แคบ ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเศษอาหาร และคราบพลัค (Plaque) ได้ การใช้ไหมขัดฟัน จะช่วยกำจัดเศษอาหาร และแบคทีเรีย ในบริเวณที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง จึงช่วยป้องกันฟันผุ และโรคเหงือกได้
หลายคนรู้สึกว่า การใช้ไหมขัดฟัน เป็นเรื่องยาก เพราะไม่แน่ใจ ในเทคนิค หรืออุปกรณ์ที่ถูกต้อง แต่เมื่อเข้าใจแล้ว กระบวนการนี้ ก็ไม่ซับซ้อน : เพียงค่อยๆ นำไหมขัดฟันเคลื่อนผ่านระหว่างซอกฟัน โค้งไหมขัดฟันรอบฟันแต่ละซี่ และทำความสะอาดตามแนวขอบเหงือก เมื่อทำจนคุ้นเคย การใช้ไหมขัดฟันจะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่สร้างความแตกต่างต่อสุขอนามัยในช่องปากได้อย่างชัดเจน
ไหมขัดฟัน และอุปกรณ์ทำความสะอาดซอกฟัน มีหลายประเภท ที่ช่วยให้กระบวนการนี้ ง่ายขึ้น ตามความต้องการของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะใช้ไหมขัดฟันชนิดเคลือบแวกซ์ เทปขัดฟัน (Dental Tape) หรือไหมขัดฟันพลังน้ำ (Water Flosser) สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความสม่ำเสมอ และเทคนิคที่ถูกต้อง เมื่อการใช้ไหมขัดฟัน กลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน ก็จะช่วยส่งเสริมให้เหงือกแข็งแรงขึ้น ลมหายใจสดชื่นขึ้น และฟันแข็งแรงยิ่งขึ้น
ความสำคัญของการใช้ไหมขัดฟัน
การใช้ไหมขัดฟัน ช่วยขจัดคราบพลัค และเศษอาหารออกจากบริเวณซอกฟัน ที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง การทำความสะอาดในบริเวณเหล่านี้ จะช่วยรักษาสุขภาพเหงือก และฟันให้ดีขึ้น พร้อมทั้งลดความเสี่ยงของการเกิดฟันผุ และปัญหาสุขภาพฟันในระยะยาว
ประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปาก
การใช้ไหมขัดฟัน ช่วยให้ฟันสะอาดขึ้น โดยการกำจัดเศษอาหาร และคราบพลัค ที่สะสมในบริเวณ ที่มักถูกมองข้ามจากการแปรงฟัน คราบพลัค คือ แผ่นฟิล์มเหนียวของแบคทีเรีย ที่ก่อตัวขึ้นตลอดเวลา และหากไม่กำจัดออกทุกวัน คราบพลัคจะแข็งตัวจนกลายเป็นหินปูน (Tartar) ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะมีเพียงทันตแพทย์เท่านั้น ที่สามารถขจัดออกได้
นิสัยการใช้ไหมขัดฟันที่ดี ยังช่วยให้ลมหายใจสดชื่นขึ้นด้วย เนื่องจากเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟัน จะเกิดการย่อยสลาย และสร้างแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่น การกำจัดเศษอาหารเหล่านี้ เป็นการแก้ปัญหากลิ่นปากที่ต้นเหตุ แทนที่จะเป็นเพียงการกลบกลิ่น
การใช้ไหมขัดฟัน ส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากโดยรวม เพราะช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาทางทันตกรรมได้หลายอย่าง การทำความสะอาดซอกฟัน ช่วยลดโอกาสการเกิดฟันผุ การอักเสบของเหงือก และค่าใช้จ่ายในการรักษาทางทันตกรรม ที่มีราคาสูง ในอนาคต เมื่อทำร่วมกับการแปรงฟัน และการตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ การใช้ไหมขัดฟัน จะถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตร การดูแลสุขภาพช่องปากที่สมบูรณ์
การป้องกันโรคเหงือก
โรคเหงือก เริ่มต้นจากภาวะเหงือกอักเสบ (Gingivitis) ซึ่งทำให้เหงือกมีอาการแดง บวม และมีเลือดออกง่าย การใช้ไหมขัดฟัน จะช่วยป้องกันภาวะนี้ ได้โดยการขจัดคราบพลัคตามแนวขอบเหงือก ก่อนที่มันจะสร้างความระคายเคือง และทำให้เนื้อเยื่ออักเสบ
หากปล่อยทิ้งไว้ โดยไม่รักษา ภาวะเหงือกอักเสบ สามารถลุกลามไปสู่โรคปริทันต์อักเสบ (Periodontitis) ซึ่งเป็นโรคเหงือกในระยะที่รุนแรงกว่า โดยจะมีการทำลายกระดูกที่รองรับฟัน และอาจนำไปสู่การสูญเสียฟันในที่สุด การใช้ไหมขัดฟันทุกวัน จะช่วยหยุดยั้งกระบวนการนี้ โดยการควบคุมระดับแบคทีเรีย
ทันตแพทย์ แนะนำให้ใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ เพราะสามารถลดความเสี่ยงของโรคเหงือกได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าการแปรงฟันเพียงอย่างเดียว ด้วยการทำความสะอาดระหว่างซอกฟัน และบริเวณใต้ขอบเหงือกเล็กน้อย การใช้ไหมขัดฟัน จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ และทำให้เหงือกแข็งแรง และมีสุขภาพดี
การลดความเสี่ยงฟันผุ
ฟันผุ มักเริ่มต้นในบริเวณซอกฟันที่ขนแปรงสีฟันเข้าไม่ถึง แบคทีเรียในคราบพลัค จะใช้น้ำตาลเป็นอาหาร และปล่อยกรดออกมา ซึ่งจะค่อยๆ กัดกร่อนเคลือบฟัน การใช้ไหมขัดฟัน จะช่วยขจัดคราบพลัคออกไป ก่อนที่มันจะสร้างความเสียหาย
การใช้ไหมขัดฟัน ยังช่วยลดความเสี่ยงของฟันผุบริเวณซอกฟัน (Interproximal cavities) ซึ่งเป็นฟันผุที่เกิดขึ้นระหว่างซี่ฟัน การผุในลักษณะนี้ อาจตรวจพบได้ยาก หากไม่ใช้การเอกซเรย์ (X-ray) และมักจะต้องได้รับการอุดฟัน หรือการรักษาที่ซับซ้อนกว่า เมื่อตรวจพบ
การรักษาความสะอาดบริเวณเหล่านี้ จะช่วยรักษาสาพโครงสร้างตามธรรมชาติของฟันไว้ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันฟันผุ แต่ยังช่วยให้เคลือบฟันแข็งแรงขึ้น และส่งผลให้สุขภาพช่องปากโดยรวม ดีขึ้นด้วย
เทคนิคการใช้ไหมขัดฟันที่ถูกวิธี
เทคนิคการใช้ไหมขัดฟันที่ถูกต้อง จะช่วยขจัดคราบพลัค (Plaque) และเศษอาหารในบริเวณที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง ซึ่งต้องอาศัยการเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง ระหว่างซอกฟัน การใส่ใจบริเวณขอบเหงือก และการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจสร้างความเสียหาย หรือลดทอนประสิทธิภาพ
ขั้นตอนการใช้ไหมขัดฟันทีละขั้นตอน
เริ่มต้นด้วยการดึงไหมขัดฟันออกมาประมาณ 18 นิ้ว (45 เซนติเมตร) พันไหมขัดฟันส่วนใหญ่ไว้ที่นิ้วกลางข้างหนึ่ง และพันส่วนที่เหลือไว้ที่นิ้วกลางของมืออีกข้าง โดยเหลือไหมขัดฟันช่วงกลางไว้ประมาณ 2-3 นิ้ว สำหรับใช้งาน การเตรียมแบบนี้ จะช่วยให้สามารถเปลี่ยนไปใช้ไหมขัดฟันส่วนที่สะอาดได้เรื่อยๆ
ค่อยๆ เลื่อนไหมขัดฟันไปมาระหว่างซอกฟันอย่างเบามือ หลีกเลี่ยงการกดไหมขัดฟันลงไปแรงๆ เพราะอาจทำให้เหงือกบาดเจ็บได้ เมื่อไหมขัดฟันผ่านจุดที่ฟันชิดกันแล้ว ให้โค้งไหมขัดฟันเป็นรูปตัว C โอบรอบซี่ฟันซี่หนึ่ง
ขยับไหมขัดฟันขึ้นลงไปตามแนวของซี่ฟัน เพื่อทำความสะอาดให้ทั่วถึงทั้งด้าน หลังจากทำความสะอาดฟันซี่หนึ่งเสร็จแล้ว ให้ปรับตำแหน่งไหมขัดฟัน เพื่อโอบฟันซี่ที่อยู่ติดกัน ทำเช่นนี้ ไปเรื่อยๆ ในทุกซอกฟัน และคลายไหมขัดฟันส่วนใหม่ออกมาใช้เมื่อจำเป็น
การทำความสะอาดบริเวณขอบเหงือก
การทำความสะอาดบริเวณขอบเหงือก เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะคราบพลัค มักจะสะสมอยู่บริเวณใต้ขอบเหงือกพอดี หลังจากโค้งไหมขัดฟันเป็นรูปตัว C แล้ว ให้ค่อยๆ เลื่อนไหมขัดฟันลงไปใต้ขอบเหงือกเบาๆ จนรู้สึกถึงแรงต้านเล็กน้อย
ใช้การขยับขึ้นลง เพื่อขจัดคราบที่สะสมอยู่ โดยไม่กดไหมขัดฟันลึกเกินไป เป้าหมาย คือ การทำความสะอาดร่องเหงือก ซึ่งเป็นบริเวณที่เหงือกจรดกับตัวฟัน ไม่ใช่การดันไหมขัดฟันเข้าไปในเนื้อเยื่อเหงือก
ควรทำความสะอาดฟันทุกซี่ทั้งสองด้าน รวมถึงฟันกรามซี่ในสุด การใช้เวลาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในบริเวณเหล่านี้ จะช่วยลดความเสี่ยงของการระคายเคือง และการอักเสบของเหงือก เทคนิคการใช้ไหมขัดฟันบริเวณขอบเหงือกที่ถูกต้อง จะช่วยให้เหงือกแข็งแรงขึ้น และลดโอกาสการเกิดปัญหาสุขภาพเหงือก และโรคปริทันต์ได้
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย และควรหลีกเลี่ยง
หลายคนใช้ไหมขัดฟันผิดวิธี โดยการกดไหมขัดฟันลงในซอกฟันแรงๆ ซึ่งอาจบาดหรือทำให้เหงือกระคายเคืองได้ ข้อผิดพลาดอีกอย่าง คือ การข้ามฟันบางซี่ โดยเฉพาะซี่ในสุด ซึ่งมักมีเศษอาหารติดอยู่
การใช้ไหมขัดฟันส่วนเดิมซ้ำๆ กับฟันหลายซี่ จะเป็นการแพร่กระจายเชื้อแบคทีเรีย แทนที่จะเป็นการกำจัดออก การคลายไหมขัดฟันส่วนที่สะอาดออกมาใช้ จะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้
บางคนใช้ไหมขัดฟันเป็นครั้งคราว แต่ประสิทธิภาพสูงสุด จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ ใช้เป็นประจำทุกวัน ส่วนบางคนทำความสะอาดแค่ผิวฟัน และไม่ลงไปถึงบริเวณใต้ขอบเหงือกเล็กน้อย ทำให้คราบพลัคยังคงหลงเหลืออยู่ การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้ จะทำให้การใช้ไหมขัดฟันเกิดประโยชน์สูงสุด
ประเภทของไหมขัดฟัน และอุปกรณ์ช่วยทำความสะอาดซอกฟัน
ไหมขัดฟัน และอุปกรณ์ช่วยทำความสะอาดซอกฟัน มีหลายรูปแบบ โดยแต่ละชนิด ถูกออกแบบมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดระหว่างซอกฟัน ให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล การเลือกใช้อุปกรณ์ มักขึ้นอยู่กับระยะห่างของซี่ฟัน การมีวัสดุอุดฟัน หรือครอบฟัน และความถนัดส่วนบุคคล
การเลือกไหมขัดฟันที่เหมาะสม
ไหมขัดฟันชนิดเคลือบแว็กซ์ (Waxed floss) ถูกเคลือบ เพื่อให้สามารถสอดผ่านซอกฟันที่ชิดกันแน่นได้ง่ายขึ้น ซึ่งช่วยลดโอกาสที่เส้นไหมจะขาดลุ่ย ส่วนไหมขัดฟันชนิดไม่เคลือบแว็กซ์ (Unwaxed floss) จะไม่มีสารเคลือบ และอาจเกิดเสียงเสียดสีกับผิวฟันที่สะอาด ซึ่งบางคนรู้สึกว่า เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพ ในการทำความสะอาด
เทปขัดฟัน (Dental tape) มีลักษณะแบน และกว้างกว่าไหมขัดฟันมาตรฐาน ทำให้เหมาะ สำหรับผู้ที่มีช่องว่างระหว่างฟันกว้าง ส่วนไหมขัดฟันที่ทนต่อการขาดลุ่ย (Shred-resistant floss) จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มักประสบปัญหาไหมขัดฟันขาด หรือเป็นขุยระหว่างใช้งาน
ไหมขัดฟันบางชนิด มีการปรุงแต่งรสชาติ เช่น รสมิ้นต์ ซึ่งช่วยให้ช่องปากรู้สึกสดชื่นขึ้น หลังการทำความสะอาด ในขณะที่บางชนิด อาจมีการผสมฟลูออไรด์ เพื่อช่วยป้องกันฟันผุเพิ่มเติม
การเลือกไหมขัดฟันที่เหมาะสม มักต้องอาศัยการลองผิดลองถูก ผู้ที่มีฟันเรียงตัวชิดกันแน่น อาจชอบไหมขัดฟันชนิดเคลือบแว็กซ์ ในขณะที่ผู้ที่มีช่องว่างระหว่างฟันมากกว่า อาจพบว่า เทปขัดฟัน ใช้งานได้ง่ายกว่า
อุปกรณ์ทำความสะอาดซอกฟันทางเลือก
สำหรับผู้ที่ใช้งานไหมขัดฟันแบบเส้นได้ไม่สะดวก ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ อีกหลายชนิดที่เป็นทางเลือก ไหมขัดฟันแบบมีด้ามจับ (Floss picks) จะมีเส้นไหมสั้นๆ ขึงอยู่บนด้ามพลาสติกขนาดเล็ก ทำให้ควบคุมทิศทางได้ง่าย สำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวของมือ
ไหมขัดน้ำ (Water flossers) ใช้แรงดันน้ำฉีดทำความสะอาดคราบพลัค และเศษอาหารบริเวณรอบๆ ฟัน และเหงือก อุปกรณ์ชนิดนี้ มีประโยชน์อย่างยิ่ง สำหรับการทำความสะอาดรอบสะพานฟัน รากฟันเทียม หรือเครื่องมือจัดฟัน
แปรงซอกฟัน (Interdental brushes) เป็นแปรงขนาดเล็กที่มีขนแปรง ออกแบบมาให้สอดเข้าไประหว่างซอกฟันได้พอดี มักจะถูกแนะนำ สำหรับผู้ที่มีภาวะเหงือกร่น หรือมีช่องว่างระหว่างฟันขนาดใหญ่
ข้อเปรียบเทียบเบื้องต้น
| เครื่องมือ | เหมาะสำหรับ | ข้อสังเกต |
|---|---|---|
| ไหมขัดฟันแบบมีด้าม (Floss pick) | ใช้งานง่าย และรวดเร็ว | ทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึงเท่าไหมขัดฟันแบบเส้น |
| ไหมขัดฟันพลังน้ำ (Water flosser) | คนจัดฟัน, รากฟันเทียม, เหงือกแพ้ง่าย | ต้องชาร์จไฟ หรือใช้แบตเตอรี่ |
| แปรงซอกฟัน (Interdental brush) | ฟันห่าง, เหงือกร่น | มีหลายขนาดให้เลือก |
การใช้ไหมขัดฟัน สำหรับผู้ที่จัดฟัน หรือมีเครื่องมือทันตกรรม
การจัดฟัน และเครื่องมือทันตกรรมแบบติดแน่น ทำให้การใช้ไหมขัดฟันทำได้ยากขึ้น แต่เครื่องมือที่เหมาะสม สามารถช่วยได้ อุปกรณ์นำไหมขัดฟัน (Floss Threader) จะทำหน้าที่คล้ายเข็ม เพื่อช่วยสอดไหมขัดฟันลอดใต้เส้นลวด ทำให้สามารถทำความสะอาดตามแนวขอบเหงือกได้อย่างเหมาะสม
ไหมขัดฟันชนิดพิเศษ (Super Floss) ประกอบด้วย 3 ส่วนในเส้นเดียว คือ ส่วนปลายแข็งสำหรับสอดไหม, ส่วนที่เป็นฟองน้ำ สำหรับทำความสะอาดรอบเครื่องมือ และส่วนที่เป็นไหมขัดฟันปกติ สำหรับใช้งานทั่วไป ทำให้ไหมชนิดนี้ มีประโยชน์อย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่จัดฟัน และใส่สะพานฟัน
โดยทั่วไปแล้ว ไหมขัดฟันชนิดเคลือบแว็กซ์ (Waxed Floss) จะสามารถเลื่อนไปรอบๆ แบร็กเก็ต (Brackets) และเส้นลวดได้ง่ายกว่า ชนิดที่ไม่เคลือบแว็กซ์ ทันตแพทย์ มักแนะนำให้ใช้ไหมขัดฟันอย่างเบามือ เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความเสียหายต่อเส้นลวด หรือทำให้เหงือกระคายเคือง
ไหมขัดฟันพลังน้ำ (Water Flosser) เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่มีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่จัดฟัน อุปกรณ์นี้ สามารถฉีดน้ำ เพื่อชะล้างเศษอาหารออกจากบริเวณที่ไหมขัดฟันแบบเส้น อาจเข้าถึงได้ไม่สะดวก
การใช้เครื่องมือเหล่านี้ ร่วมกัน จะช่วยรักษาสุขอนามัยในช่องปากได้เป็นอย่างดี ในช่วงเวลาที่การแปรงฟัน และการใช้ไหมขัดฟัน มีความซับซ้อนมากขึ้น จากเครื่องมือทันตกรรม

