การฟอกสีฟันเป็นการทำให้ฟันขาวขึ้น และสว่างขึ้น โดยใช้ น้ำยาฟอกสีฟันกลุ่มเปอร์ออกไซด์ โดยน้ำยาฟอกสีฟันจะทำปฏิกิริยากับเนื้อฟัน ทำให้สีอ่อนลง โดยมักจะทำร่วมกับการขจัดคราบฟัน เพื่อขจัดคราบ ชา กาแฟ บุหรี่ เพื่อขจัดสารมีสีดังกล่าวที่เกาะอยู่ที่ผิวฟัน
อย่างไรก็ตามน้ำยาฟอกสีฟันจะไม่สามารถเปลี่ยนสีของครอบฟันและวัสดุอุดฟันได้
- ฟอกสีฟันมี กี่แบบ
- Internal Bleaching
- Home Bleaching(ฟอกสีฟันทำที่บ้าน)
- In-office teeth whitening (การฟอกสีฟันในคลินิก)
- ขั้นตอนการฟอกสีฟันในคลินิก
- ขั้นตอนการฟอกสีฟันที่บ้าน
- เมื่อฟอกสีฟันแล้วจะอยู่ได้นานเท่าไหร่
- สารฟอกสีฟันมีอันตรายหรือผลข้างเคียงต่อเหงือกหรือฟันหรือไม่
- วิธีรักษาอื่นๆที่ทำให้ฟันขาวถาวร
ฟอกสีฟันมี 3 แบบ
- Internal Bleaching
- Home Bleaching(ฟอกสีฟันทำที่บ้าน)
- In-office teeth whitening (การฟอกสีฟันในคลินิก)
Internal Bleaching
เป็นการฟอกสีฟันหลังจากคนไข้รักษาคลองรากฟัน โดยจะทำในฟันหน้าที่รักษาคลองรากฟันแล้วฟันมีสีเข้มขึ้น โดยจะทำการใส่น้ำยาฟอกสีฟัน Carbamide peroxide ไว้ในซี่ฟัน จากนั้นนัดมาติดตามอาการเป็นระยะ จนสีฟันกลับมาใกล้เคียงฟันซี่ข้างเคียง จากนั้นอุดฟัน–บูรณะฟันต่อไป
Home Bleaching(ฟอกสีฟันทำที่บ้าน)
การฟอกสีฟันทำที่บ้านโดยใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นต่างๆ ร่วมกับถาดพิมพ์ปากเฉพาะบุคคล โดยทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากบน–ล่าง จากนั้นส่งไปแลปทันตกรรมเพื่อทำถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคลซึ่งจะมีขนาดพอดีกับฟันของคนนั้นๆ จากนั้น และใช้ร่วมกับน้ำยาฟอกสีฟันสำหรับฟอกที่บ้าน
In-office teeth whitening (การฟอกสีฟันในคลินิก)
การฟอกสีฟันในคลินิก โดยใช้ไฮโดรเจรเปอร์ออกไซด์ที่ความเข้มข้นสูง ร่วมกับการกระตุ้นน้ำยาด้วยแสง–เลเซอร์ สีม่วง ซึ่งช่วยลดอาการเสียวฟัน โดยทันตแพทย์จะทำการขูดหินปูน ขัดฟัน เพื่อขจัดคราบที่ผิวฟันออก จากนั้นใช้วัสดุสำหรับปกป้องเหงือก ซีลบริเวณขอบเหงือกเพื่อป้องกันเหงือกจากน้ำยาฟอกสีฟัน จากนั้นทาน้ำยาฟอกสีฟัน และฉายแสงกระตุ้นการทำงาน
การฟอกสีฟันในคลินิกใช้เวลาประมาณ 45นาที-1.5 ชั่วโมง
ขั้นตอนการฟอกสีฟันในคลินิก
1.ทันตแพทย์ให้คำปรึกษาและตรวจฟันคนไข้และขูดหินปูนก่อนจะเริ่มทำการฟอกสีฟัน
2.ทัตนแพทย์จะเทียบเฉดสีก่อนการฟอกสีฟัน ใส่อุปกรณป้องกันน้ำยาฟอกสีฟัน กันเหงือกโดนน้ำยา และใส่แว่นตากันแสงเลเซอร์
3. เมื่อป้องกันเรียบร้อยแล้วทันตแพทย์จะเริ่มทาน้ำยาฟอกสีฟันไปที่ฟันแต่ละซี่ และฉายแสงเพื่อกระตุ้นน้ำยา และตามด้วยฉายแสงเลเซอร์เพื่อให้น้ำยาทำงานได้เกิดประสิทธิภาพและลดการเสียวฟัน
โดยจะฉายเเสงเลเซอร์ ทุก15นาที จนครบ 45นาที
4. ทันตแพทย์ทำความสะอาดล้างน้ำยาฟอกสีฟัน ทายากันเสียวฟัน และเปรียบเทียบเฉดสีเพื่อให้เห็นคามแตกต่าง
ขั้นตอนการฟอกสีฟันที่บ้าน
1.ทันตแพทย์ให้คำปรึกษาและตรวจฟันคนไข้และขูดหินปูนก่อนจะเริ่มพิมพ์ปากเพื่อทำถาดฟอกสีฟัน รอรับถาดฟอกสีฟัน ภายในวันนั้น
2.ทันตแพทย์ จะแนะนำวิธีการใช้งานถาดฟอกสีฟันและน้ำยาฟอกสีฟัน
3.ก่อนจะเริ่มฟอกสีฟันคนไข้ต้องแปรงันให้สะอาด ใส่น้ำยาฟอกสีฟันไปที่ถาดฟอกสีฟันในฟันหน้าทุกซี่ โดยน้ำยาปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียว
4. สวมถาดฟอกสีฟันไปที่ฟันใช้เวลา 1-2 ช.ม.
5. เมื่อครบเวลาแล้ว ถอดถาดฟอกสีฟัน บ้วนปากทำความสะอาด และทำความสะอาดอุปกรณ์ เช็ดให้แห้ง
เมื่อฟอกสีฟันแล้วจะอยู่ได้นานเท่าไหร่
สีจะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสภาพก่อนฟอก ถ้า เดิมสีค่อนข้างคล้ำ โอกาสคืนกลับสู่สีเดิมจะเป็นไปได้สูง ในเวลา 1-2 ปี แต่การฟอกสีฟันที่สีเหลืองอ่อน จะขาวได้นานประมาณ 3-4 ปี ทั้งนี้ต้องขึ้นกับความระมัดระวังป้องกันการติดสีจากคราบอาหาร เช่น ชา กาแฟ ไวน์ เป็นต้น และเมื่อสีฟันคล้ำลงอีกก็สามารถใช้ยาฟอกสีฟันซ้ำได้อีก
สารฟอกสีฟันมีอันตรายหรือผลข้างเคียงต่อเหงือกหรือฟันหรือไม่
อาการที่สามารถเกิดขึ้นได้คือแสบเหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก เนื่องจากการระคายเคืองโดยตรงที่สัมผัสกับน้ำยา และอีกอาการหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ ก็คือ การเสียวฟันหลังจากฟอกสีฟัน แต่ประสาทฟันจะมีการป้องกันตัวเองโดยธรรมชาติและอาการก็จะค่อย ๆ ทุเลาลงและหมดไปเมื่อเราหยุดฟอกสี นอกจากนี้ทันตแพทย์ก็อาจเคลือบได้การเคลือบฟลูออไรด์ การฟอกสีฟันทั้งปากไม่ได้ทำให้ฟันสึกกร่อนหรืออ่อนแอลงแต่อย่างไร
วิธีรักษาอื่นๆที่ทำให้ฟันขาวถาวร
คือการทำวีเนียร์ หรือเคลือบผิวฟันเทียม นอกจากทำให้ฟันสีขาวขึ้แล้ว สามารถรักษารูปร่างให้สวยงามได้ แต่ค่าใช้จ่ายจะแพงกว่าการฟอกสีฟัน