Welcome to digital era-เราเอาระบบดิจิตอลมาทำอะไรได้บ้าง

ปัจจุบันนี้มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการพัฒนาหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน ธนาคาร เกษตรกรรม ในด้านเทคโนโลยีเชิงสุขภาพก็มีการนำระบบดิจิตอลมาช่วยในการรักษา ทำให้มีความแม่นยำและรวดเร็วขึ้น

ส่วนตัวก็ได้เริ่มนำระบบดิจิตอลมาเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาทีคลินิกเพื่อให้การรักษาเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด วันนี้เลยจะมาเล่าประสบการณ์ของตัวเองในการใช้ digital workflow

1.INVISALIGN : อันนี้ทุกคนคงรู้จักอยู่แล้ว เรื่องการจัดฟันแบบใสระบบดิจิตอล เพราะinvisalign เป็นที่นิยมในไทยมาพักใหญ่ๆแล้ว โดยการรักษาจะเป็นการแสกนช่องปากคนไข้ จากนั้นจะทำการดีไซน์การเคลื่อนฟันใน software ที่เป็นลิขสิทธิ์ของ Align company เรียกการออกแบบว่า Clincheck พอเราออกแบบเสร็จ ก็จะทราบว่าใช้เวลาการรักษานานเท่าไหร่ เราจะสามารถเห็นฟันก่อนและหลังการรักษาได้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำ และแอบกระซิบว่าจัดแบบนี้เจ็บน้อยกว่าแบบ conventionalมาก เรื่อง invisalign จะมาเล่าให้ฟังเต็มๆอีกทีค่ะ

2.Digital 3D CBCT โดยหลักๆปัจจุบันนี้ใช้งานหลักๆคือ 3D digital CBCT ในการวางแผนการรักษา โดยสามารถวัดความกว้าง ความยาว ความสูงของกระดูก และระยะต่ออวัยวะสำคัญโดยรอบได้ ทำให้สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย

3.Intraoral scanner ปัจจุบันในท้องตลาดมีหลายยี่ห้อ เช่น itero ,3shape,carestream…. สำหรับที่คลินิกจะใช้ของ itero เนื่องจากสามารถประยุกต์ใช้กับงานจัดฟันใส invisalign และยังสามารถมาใช้กับงานอื่นๆ เช่นการทำครอบฟัน หรือออกแบบวางแผนการรักษาได้

4.Computer guided implant planning คือการนำภาพสามมิติจากเครื่อง intraoral scanner ซึ่งจะเป็นภาพของฟันของเรา มาซ้อนรวมกับภาพ X-ray สามมิติจากเครื่อง Digital 3D CBCT ทำให้เสมือนเราเห็นมิติของความหนาเหงือก อวัยวะรอบๆที่ใส่รากเทียม และมองทะลุไปถึงสันกระดูกได้ ทำให้ปัจจุบันนิยมมาใช้ในการวางแผนการผ่าตัดเพื่อทำรากฟันเทียม โดยแพทย์จะดีไซน์ตำแหน่งของรากฟันเทียมท่ีต้องการ จากนั้นจะส่งข้อมูลไปที่เครื่อง 3D printer เพื่อทำ stent เมื่อถึงวันที่ผ่าตัดแพทย์จะทำการผ่าตัดผ่าน stent ทั้งหมด เหมือนกับการย้ายข้อมูลตำแหน่งจากในคอมพิวเตอร์สู่ช่องปาก ตำแหน่งของรากเทียมจะใกล้เคียงกับที่วางแผนในคอมพิวเตอร์มาก นอกจากนี้บางเคสยังแทบจะไม่ต้องเปิดเหงือก คือ แค่เจาะรูเล็กๆแล้วใส่รากเทียมไปตามช่องนั้นได้เลย แผลก็จะเล็กและหายเร็ว

5.Digital smile design เป็นการวางแผน โดยดีไซน์ครอบฟัน หรือวีเนียร์โดยการจำลองแบบหลังการรักษาในคอมพิวเตอร์ก่อน ในบางเคสหมอจะให้แลปทำครอบชั่วคราวหรือวีเนียร์มาให้คนไข้ลอง (Mockup) ก่อนที่จะให้ทำตัวจริง

6.CAD/CAM ,3D printing ส่วนนี้จะเป็นงานของแลป โดยเมื่อทำการส่งไฟล์ และได้รับดีไซน์แล้ว ก็จะทำการกลึงครอบฟัน หรือ print ครอบชั่วคราวจากแลป

7.Replicate/Customize implant system คือการใช้รากฟันเทียมที่ดีไซน์จากรากฟันของเราก่อนที่จะถอนฟัน โดยจะมีรูปร่างเหมือนกับรากฟันของเราก่อนถูกถอน โดยรากเทียมจะออกแบบและทำเฉพาะตัวเคสต่อเคส โดยจะส่งไปกลึงที่ประเทศเยอรมนี (ใช้เวลาในการผลิตประมาณหนึ่งอาทิตย์) โดยหลังจากที่ได้รับรากเทียมแล้ว หมอจะทำการถอนฟัน ,ทำความสะอาดแล้วใส่รากเทียมดังกล่าวไปแทนที่ พร้อมกับใส่ครอบฟันชั่วคราวทันที

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *