ฟันปลอมเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สำคัญสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันตามธรรมชาติ โดยเฉพาะเมื่อมีการสูญเสียฟันหลายซี่ ฟันปลอมไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณสามารถเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น แต่ยังส่งผลต่อการพูดและความมั่นใจในตัวเองอีกด้วย
ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับฟันปลอม ประโยชน์ที่ได้รับ และวิธีการดูแลฟันปลอมอย่างถูกต้องเพื่อรักษาสุขภาพช่องปากที่ดี
ประเภทของฟันปลอม
ฟันปลอมมีสองประเภทหลัก ๆ ได้แก่
-
ฟันปลอมถอดได้
ฟันปลอมชนิดนี้สามารถถอดออกและใส่เข้าได้ตามสะดวก มักใช้ในกรณีที่สูญเสียฟันหลายซี่หรือฟันทั้งปาก โดยแบ่งเป็นสองชนิดย่อยคือฟันปลอมบางส่วนและฟันปลอมทั้งปาก- ฟันปลอมบางส่วน: ใช้ในกรณีที่ยังมีฟันธรรมชาติอยู่บางซี่ ฟันปลอมบางส่วนจะยึดติดกับฟันธรรมชาติที่เหลืออยู่เพื่อความคงทน
- ฟันปลอมทั้งปาก: ใช้ในกรณีที่ไม่มีฟันธรรมชาติเหลืออยู่เลย ฟันปลอมทั้งปากจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของฟันทั้งหมด
-
ฟันปลอมติดแน่น
ฟันปลอมประเภทนี้เป็นฟันปลอมที่ติดแน่นถาวรกับเหงือกและกระดูกขากรรไกร เช่น สะพานฟัน (Bridge) หรือรากฟันเทียม (Dental Implants)
รากฟันเทียมเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเนื่องจากมีความแข็งแรงและสามารถใช้งานได้ยาวนาน
ประโยชน์ของการใช้ฟันปลอม
-
ช่วยให้การเคี้ยวอาหารดีขึ้น
เมื่อสูญเสียฟันไป การเคี้ยวอาหารอาจเป็นเรื่องที่ยากขึ้น การมีฟันปลอมจะช่วยฟื้นฟูการบดเคี้ยวและทำให้รับประทานอาหารได้สะดวกขึ้น -
เสริมสร้างความมั่นใจ
ฟันปลอมช่วยคืนความสวยงามให้กับรอยยิ้ม ทำให้คุณรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการพูดคุยและพบปะผู้คน -
ช่วยป้องกันการสูญเสียกระดูกขากรรไกร
การสูญเสียฟันธรรมชาติอาจทำให้กระดูกขากรรไกรละลายลงตามเวลา ฟันปลอมติดแน่น เช่น การปลูกถ่ายฟันเทียม ช่วยป้องกันไม่ให้กระดูกขากรรไกรสูญเสียโครงสร้าง -
ช่วยพัฒนาการพูด
การสูญเสียฟันอาจทำให้การออกเสียงผิดเพี้ยน ฟันปลอมจะช่วยให้คุณสามารถพูดได้ชัดเจนขึ้น
การดูแลฟันปลอมอย่างถูกต้อง
การดูแลฟันปลอมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาสุขภาพช่องปากที่ดี ดังนี้
-
ทำความสะอาดฟันปลอมเป็นประจำ
ฟันปลอมถอดได้ควรถอดออกมาทำความสะอาดทุกวันโดยใช้แปรงฟันปลอมและน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะเพื่อขจัดคราบอาหารและคราบหินปูน -
แปรงฟันธรรมชาติที่เหลืออยู่
หากคุณใช้ฟันปลอมบางส่วน ควรแปรงฟันธรรมชาติที่เหลืออยู่เพื่อป้องกันฟันผุและเหงือกอักเสบ -
ไปพบแพทย์ทันตกรรมเป็นประจำ
ควรไปพบแพทย์ทันตกรรมเพื่อตรวจสภาพฟันปลอมและสุขภาพช่องปากทุก ๆ 6 เดือน -
หลีกเลี่ยงการใช้ฟันปลอมกัดของแข็ง
การใช้ฟันปลอมกัดของแข็งอาจทำให้ฟันปลอมเสียหาย ควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการกัดอาหารแข็ง3 - ใส่ฟันปลอมเฉพาะตอนกลางวัน ห้ามใส่ฟันปลอมนอน
สรุป
ฟันปลอมเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันธรรมชาติ ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและปรับปรุงการทำงานของฟัน การดูแลฟันปลอมอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาสุขภาพช่องปากได้ดีตลอดไป หากคุณกำลังมองหาทางเลือกในการฟื้นฟูฟัน ฟันปลอมอาจเป็นคำตอบที่เหมาะสมสำหรับคุณ
คลินิกทันตกรรมสไมล์แอนด์ชายน์พระรามสาม พร้อมให้คำปรึกษาและบริการด้านฟันปลอมทุกประเภท
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟันปลอม
การใส่ฟันปลอมในตอนแรกจะมีความรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาอยู่ในปาก อาจจะต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคย และฝึกในการพูดคุด กัด และ เคี้ยว อาหาร จากนั้นเมื่อใส่ฟันปลอมเป็นประจำทุกๆ วัน จะค่อยๆ ชินไปเอง
- เมื่อเริ่มใส่ฟันปลอมครั้งแรกควรฝึกเคี้ยวด้วยการรับประทานแต่อาหารอ่อนๆก่อน
- ตัดอาหารเป็นชิ้นเล็กๆและค่อยๆเคี้ยวโดยใช้ฟันทั้งสองฟากเพื่อให้เกิดความสมดุล
- หลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมากฝรั่งและอาหารที่มีความเหนียวแข็งหรือมีความคม
มีความเป็นไปได้ว่าเมื่อระยะเวลาผ่านไปหลังจากทำฟันปลอม กระดูกอาจเกิดหดตัวจนรู้สึกว่า “ฟันปลอมหลวม” ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการแก้ไข หรือ ใช้กาวติดฟันปลอมทำให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้น
ทันตแพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรมประดิษฐ์
คลินิกทันตกรรมสไมล์แอนด์ชายน์ พระรามสาม
ทพญ. ทิชา ทองระกาศ
Dr. Ticha Thongrakard
Prosthodontist(ทันตกรรมประดิษฐ์)
• D.D.S. Chulalongkorn University
• Master Degree of Prosthodontic Dentistry
• Certificate of Implant Dentistry Chulalongkorn University
ทพญ.สลิลภร ศรีเจษฎาพันธ์
Dr.Salinporn Srijesdapun
Prosthodontist(ทันตกรรมประดิษฐ์)
• Doctor of Dental Surgery (DDS) Faculty of Dentistry, Chulalongkorn University
• Higher Graduate Diploma of Clinical Sciences Program (Prosthodontic), Chulalongkorn University
ฟันปลอมมีกี่แบบ แบบไหนดีที่สุด ฟันปลอมแบบไหนเหมาะกับเราที่สุด?
สำหรับผู้ที่สูญเสียฟันแท้ไป การใส่ฟันปลอมจะเป็นวิธีที่ช่วยทดแทนให้กลับมายิ้มได้ ทานอาหารได้ กลับมามีความมั่นใจ และกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีดังเดิม ทีนี้เรามาดูกันว่าฟันปลอมมีกี่ชนิด แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ชนิดของฟันปลอม ฟันปลอมมีกี่แบบ
การใส่ฟันทดแทน หรือ การใส่ฟันปลอมสามารถแบ่งออกได้ดังนี้คือ
1.ฟันปลอมถอดได้
เป็นฟันปลอมที่มีมานานแล้ว ได้รับความนิยมมานานเนื่องจากใช้เวลาในการทำไม่นาน ราคาไม่แพง โดยฟันปลอมถอดได้มีตั้งแต่หนึ่งซี่ จนถึงฟันปลอมถอดได้แบบทั้งปาก วัสดุที่ทำฟันปลอมแบบถอดได้มีตั้งแต่ อะคริลิก,ฐานโลหะ,ฐานยืดหยุ่น และในปัจจุบันมีฐานที่ทำจาก PEEK ที่มีความบางเบาอีกด้วย
การดูแลฟันปลอมถอดได้จะดูแลโดยการถอดมาทำความสะอาดภายนอกช่องปาก โดยใช้แปรงร่วมกับน้ำยา หรือเม็ดฟู่ที่ทำความสะอาดฟันปลอม ทำความสะอาดจนสะอาดดี ก่อนนอนก็ให้แช่น้ำไว้เพื่อไม่ให้ฟันปลอมเกิดการหดตัว
ฟันปลอมชนิดนี้ห้ามใส่นอนเด็ดขาดเนื่องจากฐานที่ค่อนข้างใหญ่ อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อราบริเวณฐาน และฟันผุบริเวณฐานที่ทำความสะอาดไม่ถึงได้
ข้อจำกัดของฟันปลอมถอดได้ คือ ขนาดจะค่อนข้างใหญ่เทอะทะ ทำให้ผู้ที่ใส่ไม่สบาย นอกจากนี้มีโอกาสที่ฟันปลอมจะเลื่อนหลุดได้ และฟันปลอมแบบนี้วางบนสันเหงือก ดังนั้นบริเวณที่ถอนฟันไป ก็ยังมีกระดูกละลาย ทำให้ในอนาคตสันกระดูกนั้นจะสลายลงไป ฟันปลอมอาจจะเลื่อนหลุดได้ง่าย
2.ฟันปลอมชนิดติดแน่น
ฟันปลอมชนิดติดแน่น ได้แก่ สะพานฟัน และรากฟันเทียม
2.1สะพานฟัน
เป็นการใส่ฟันชนิดติดแน่น โดยจะทำเป็นครอบฟันที่เชื่อมติดกัน ส่วนของครอบที่เป็นหลักจะยึดติดกับฟันแท้ที่อยู่ข้างเคียงทั้งสองด้าน ข้อดีคือมีความเป็นธรรมชาติ แต่ข้อเสียคือ ต้องมีการกรอฟันแท้เพื่อเป็นหลักยึดสะพานฟันทำให้สูญเสียเนื้อฟันไป ฟันซี่ที่เป็นหลักจะมีความแข็งแรงลดลง นอกจากนี้ปัญหาที่เจอต่อมาคือฟันผุบริเวณครอบฟันใต้ข้อต่อ เนื่องจากเป็นบริเวณที่ทำความสะอาดยาก ทำให้เกิดโอกาสผุได้ง่าย และเนื่องจากสะพานฟันมีการยึดติดกันเป็นชุดทำให้ถ้ามีอุปกรณ์เสียหาย จะต้องรื้อทำใหม่ทั้งชุด
การทำความสะอาดบริเวณใต้สะพานฟัน ต้องใช้อุปกรณ์เสริม เช่น superfloss หรือ dental floss ร่วมกับ floss threader ในการทำความสะอาด เพื่อลดการสะสมของคราบพลัก
2.2รากฟันเทียม
รากฟันเทียมเป็นฟันปลอมแบบติดแน่น ที่เป็นวิธีที่ทดแทนการสูญเสียฟันได้ดีที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากรากฟันเทียมเป็นการใช้ไทเทเนียมสกรูฝังลงไปในกระดูกขากรรไกร และเชื่อมกับครอบฟันด้วยไทเทเนียมสกรู ทำให้เมื่อใส่ฟันแล้วจะมีรูปทรงใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมาก นอกจากนี้การใส่รากฟันเทียมจะมีประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวได้ดี และการมีรากฟันเทียมอยู่ในกระดูกขากรรไกร จะลดปัญหาเรื่องการสลายของกระดูกขากรรไกรในอนาคตได้ ส่วนการดูแลรากฟันเทียมทำเหมือนฟันธรรมชาติ คือ การใช้แปรงฟันและไหมขัดฟัน
ข้อจำกัดของรากฟันเทียม คือ รากฟันเทียมจะต้องมีกระดูกที่เพียงพอจึงสามารถทำได้ หากกระดูกไม่พอจะต้องทำการเสริมกระดูกก่อน การรักษาจะมีความซับซ้อน ต้องใช้ความอดทนและความร่วมมือของคนไข้มาก อย่างไรก็ตามในระยะยาวก็ถือว่าคุ้มค่ากับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาวค่ะ
สรุปแล้วจะทำฟันปลอมแบบไหนดี
การเลือกว่าแบบไหนเหมาะกับเราที่สุด แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ คุยกันเรื่องข้อดี ข้อเสีย ข้อจำกัดต่างๆ ดูเรื่องร่างกายและงบประมาณ เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับเราค่ะ