เมื่อฟันหายหนึ่งซี่ เราควรทดแทนฟันที่สูญเสียไป ก่อนที่จะเกิดผลข้างเคียงตามมา เช่น ก่อนที่ฟันข้างเคียงจะล้ม หรือการสบฟันจะเปลี่ยนไป โดยอาจจะใส่ฟันปลอม สะพานฟัน หรือ วิธีที่ดีที่สุดในปัจจุบันคือ รากฟันเทียม
คนไข้มาปรึกษาแล้วถามหมอว่า รากเทียมฟันหน้ากับฟันหลังแตกต่างกันไหม อันไหนยากกว่ากัน วันนี้เลยจะขอมาตอบในบทความนี้ค่ะ
การใส่ฟันที่ดีที่สุดคือ การใส่ฟันโดยที่คนไข้ไม่รู้สึกว่าใส่ฟันอยู่ รู้สึกเป็นธรรมชาติ
การทำรากฟันเทียม หรือใส่ฟันบริเวณฟันหน้าจะมีความซับซ้อนมากกว่าเนื่องจาก
ฟันหน้าเป็นบริเวณที่เน้นความสวยงาม การใส่รากเทียม ต้องพิจารณาถึงตำแหน่งของรากเทียมที่เหมาะสม
ระดับของเหงือก รูปร่าง สี texture ของครอบฟัน ที่ต้องกลมกลืนไปกับซี่ข้างเคียง กระดูกและเหงือก
บริเวณฟันหน้ามักจะบาง ทำให้เกิดเหงือกร่นได้ง่าย และ กระดูกจะละลายตัวได้เร็ว
การละลายตัวของกระดูกที่ค่อนข้างเร็วทำให้เคสส่วนมากของฟันหน้าจะมีการปลูกกระดูก และ/หรือปลูกเหงือกร่วมด้วย
ช่องว่างบริเวณฟันหน้าค่อนข้างจำกัด ทำให้ต้องกำหนดตำแหน่งให้ดี เพื่อไม่ให้รากเทียมกระทบต่อฟันและอวัยวะข้างเคียง
ต้องพิจารณาถึงการทำฟันชั่วคราวให้คนไข้
ขั้นตอนคร่าวๆของการทำรากเทียมฟันหน้าคือ
- ตรวจและประเมิน x-ray 3D และวางแผนการรักษา
- ถ้ากระดูกหรือเหงือกไม่พอ จะต้องปลูกกระดูกหรือเหงือกจากนั้นรออีกสามถึงหกเดือนก่อนที่จะใส่รากเทียม
หลายๆเคส จะใส่รากเทียมพร้อมกับปลูกกระดูกหรือแต่งเหงือกในขั้นตอนเดียวกัน เพื่อลดระยะเวลาการรักษา และคนไข้ไม่ต้องเจ็บตัวหลายครั้ง
รอ 3-6 เดือนให้รากเทียมยึดกับกระดูกขากรรไกร
ทำการเปิดเพื่อต่อกับครอบชั่วคราว(Gingival molding) โดยฟันหน้า มักจะทำครอบชั่วคราวแเพื่อแต่งรูปร่างเหงือกให้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติข้างเคียงก่อนที่จะทำการพิมพ์ปาก ****ขั้นตอนนี้ปกติไม่ค่อยทำในฟันหลัง
หลังจากพิมพ์ปากแล้วรอครอบฟันจากแลป แล้วมาใส่ฟัน
จะเห็นว่าขั้นตอนและความละเอียดอ่อนของการใส่ฟันหน้าค่อนข้างมาก กรณีของแต่ละเคสจะไม่เหมือนกัน เราต้องปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีการใส่ฟันที่เหมาะสมกับเราที่สุดค่ะ
โดย ทพญ.นลัท ว่องวัจนะ คลินิกทันตกรรมสไมล์แอนด์ชายน์