รากฟันเทียมยี่ห้อไหนดี รากเทียมยุโรป รากเทียมเกาหลี แตกต่างกันอย่างไร เปรียบเทียบแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

การเลือก รากฟันเทียม เป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูการใช้งานฟันและสร้างความมั่นใจให้กับรอยยิ้ม แต่คำถามที่มักจะเกิดขึ้นคือ “ควรเลือกรากฟันเทียมยี่ห้อไหนดี?”

ในบทความนี้ หมอจะพาคุณไปรู้จักกับรากฟันเทียมแบรนด์ชั้นนำที่ คุณหมอนลัท (ทพญ.นลัท ว่องวัจนะ) คลินิกทันตกรรมสไมล์แอนด์ชายน์พระรามสามเลือกใช้ พร้อมจุดเด่นของแต่ละแบรนด์

รากฟันเทียมมีการคิดค้นและพัฒนามาหลายสิบปี ในตลาดปัจจุบันมียี่ห้อรากเทียมอยู่หลายร้อยยี่ห้อ ไม่ว่าจะของประเทศฝั่งยุโรปซึ่งเป็นต้นกำเนิด หรือจะเป็นเกาหลี ไต้หวัน จีน บราซิล อเมริกา ถามว่าเราจะเลือกยังไงหละ มีเยอะขนาดนี้

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกยี่ห้อรากฟันเทียม

การเลือกยี่ห้อรากฟันเทียมเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพฟันในระยะยาว ซึ่งการเลือกที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในผลลัพธ์ แต่ยังส่งผลต่อการใช้งานที่ทนทานและปลอดภัย


1. บริษัทผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายที่ได้มาตรฐาน

  • รากฟันเทียมควรมาจากบริษัทผู้ผลิตที่มีความมั่นคง และได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล เช่น ISO หรือ CE Mark
  • ตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยต้องมีความมั่นคงและน่าเชื่อถือ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า หากต้องการอะไหล่หรือชิ้นส่วนเสริมในอนาคต จะสามารถหาได้ง่าย
  • ยี่ห้อที่มีตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้ เช่น Straumann, Nobel Biocare, Osstem, Dentium

เหตุผล: หากบริษัทหยุดดำเนินการหรือไม่มีตัวแทนในไทย การหาชิ้นส่วนอะไหล่ในอนาคตอาจเป็นเรื่องยาก


2. การวิจัยและพัฒนาที่เชื่อถือได้

  • เลือกแบรนด์ที่มีการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารากฟันเทียมจะถูกพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • ผลงานวิจัยรองรับ เช่น การศึกษาด้านการยึดติดของกระดูก หรือความแข็งแรงของวัสดุ
  • ตัวอย่างแบรนด์ที่มีการวิจัยชั้นนำ:
    • Straumann: พัฒนาวัสดุ Roxolid และเทคโนโลยี SLActive

เหตุผล: ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการวิจัยที่ดีช่วยเพิ่มความมั่นใจในผลลัพธ์ และลดความเสี่ยงจากการใช้งาน


3. คุณภาพของวัสดุและกระบวนการผลิต

  • รากฟันเทียมต้องทำจากวัสดุคุณภาพสูงที่เป็น Medical Grade ซึ่งปลอดภัยและเข้ากับร่างกายได้ดี
  • กระบวนการผลิตต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวดและผ่านการตรวจสอบคุณภาพในทุกขั้นตอน เช่น การใช้กล้องจุลทรรศน์กำลังสูงในการตรวจสอบรากฟัน
  • ตัวอย่างกระบวนการที่ได้มาตรฐาน:
    • Straumann: ตรวจสอบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การขนส่งไทเทเนียมจนถึงการบรรจุ
    • Osstem: ใช้เทคโนโลยีทันสมัยในการผลิตเพื่อให้ได้ราคาที่จับต้องได้แต่ยังคงคุณภาพ

เหตุผล: วัสดุและกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานช่วยให้รากฟันเทียมมีความแข็งแรง ทนทาน และปลอดภัยในระยะยาว

รากฟันเทียม ยี่ห้อที่หมอนลัทเลือกนำมาใช้ในคลินิกทันตกรรมสไมล์แอนด์ชายน์

รากเทียมที่หมอเลือกมาใช้ที่คลินิก เป็นรากเทียมที่เลือกมาแล้วว่าได้รับการยอมรับทั้งในไทยและระดับโลก มีประวัติการผลิตและพัฒนาที่ยาวนานและเชื่อถือได้ (ก็คือหมอเลือกมาให้แล้วระดับหนึ่ง)

1.Straumann: รากฟันเทียมเกรดพรีเมี่ยมอันดับหนึ่งของโลก

Straumann เป็นแบรนด์รากฟันเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีต้นกำเนิดและพัฒนามาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยการดำเนินงานที่ยาวนานและการพัฒนาต่อเนื่อง Straumann ได้รับการยอมรับในวงการทันตกรรมระดับสากลว่ามีมาตรฐานสูงที่สุด ทั้งด้านคุณภาพ วัสดุ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย

จุดเด่นของ Straumann:

  • วัสดุ Roxolid® ที่แข็งแรงกว่าไทเทเนียมทั่วไป ทำให้สามารถใช้ในกรณีที่มีปริมาณกระดูกจำกัด
  • การออกแบบผิวรากฟันเทียม SLActive® ช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการยึดเกาะกับกระดูก
  • รับประกันคุณภาพระดับพรีเมียม เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาความมั่นใจในระยะยาว

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรากฟันเทียมคุณภาพสูงสุด

2.Neodent: คุณภาพจาก Straumann Group พร้อมเทคโนโลยีผิว ACQUA Surface

Neodent แบรนด์รากฟันเทียมในเครือ Straumann Group จากบราซิล ได้รับความนิยมอย่างมากในระดับสากล ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในจุดเด่นสำคัญคือ ACQUA Surface Technology

ACQUA Surface Technology เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการยึดเกาะของรากฟันเทียมกับกระดูกโดยการเคลือบผิวรากฟันด้วยสารที่ช่วยเร่งการรวมตัวระหว่างรากฟันและกระดูก (Osseointegration) ทำให้รากฟันเทียมติดแน่นกับกระดูกได้เร็วขึ้น

จุดเด่นของ ACQUA Surface:

  • ช่วยให้การรักษามีความรวดเร็วและลดเวลาการรอคอย
  • เพิ่มความมั่นใจในผลลัพธ์ โดยเฉพาะในกรณีที่คนไข้มีปริมาณกระดูกจำกัด
  • ส่งผลให้รากฟันเทียมมีเสถียรภาพสูงในระยะยาว

Neodent เหมาะสำหรับ: คนไข้ที่ต้องการรากฟันเทียมคุณภาพระดับสากลที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยลดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา ในราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้รับ!

3.รากฟันเทียม Hiossen – รากฟันเทียมอเมริกา

Hiossen เป็นแบรนด์รากฟันเทียมที่มีต้นกำเนิดจาก Osstem แบรนด์ชั้นนำของเกาหลีใต้ โดย Hiossen ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยการผสานความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและประสบการณ์การผลิตของ Osstem เข้ากับระบบการควบคุมมาตรฐานการผลิตและวัสดุของสหรัฐอเมริกา ทำให้ Hiossen กลายเป็นรากฟันเทียมที่มีคุณภาพสูงและได้รับความไว้วางใจในระดับสากล

ด้วยคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมในราคาที่คุ้มค่า Hiossen เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคนไข้ที่ต้องการรากฟันเทียมมาตรฐานสูงแต่ยังคงอยู่ในงบประมาณที่จับต้องได้!

4.Neobiotech – รากฟันเทียมเกาหลี

Neobiotech เป็นแบรนด์จากเกาหลีใต้ที่ได้รับความนิยมในเอเชียและหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากมีเทคโนโลยีที่เน้นความง่ายและรวดเร็วในการติดตั้ง

จุดเด่นของ Neobiotech:

  • การออกแบบที่เหมาะสำหรับกระดูกของคนเอเชีย
  • ราคาย่อมเยาว์เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ
  • มีอุปกรณ์เสริมที่หลากหลายสำหรับการติดตั้ง

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการทางเลือกคุณภาพดีในงบประมาณที่จำกัด

ทำไมรากฟันเทียมถึงมีราคาสูง : แพง?

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่รากฟันเทียมมีราคาสูงคือกระบวนการผลิตที่ละเอียดอ่อนและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ถูกนำมาใช้ ตั้งแต่วัสดุที่เลือกใช้ไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ป่วยจะได้รับรากฟันเทียมที่มีคุณภาพสูงสุด

กระบวนการผลิตที่ถูกออกแบบอย่างละเอียดและแม่นยำ

  • การออกแบบด้วยความแม่นยำสูง
    ทุกชิ้นส่วนของรากฟันเทียมถูกออกแบบและผลิตด้วยระบบ CAD/CAM (Computer-Aided Design and Manufacturing) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำทั้งในแง่ของขนาดและรูปทรง
  • การตรวจสอบคุณภาพในทุกขั้นตอน
    กระบวนการผลิตรากฟันเทียมเริ่มต้นจากการเลือกใช้วัสดุเกรดการแพทย์ (Medical Grade) เช่น ไทเทเนียมบริสุทธิ์ ซึ่งต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพตั้งแต่ขั้นตอนการขนส่งไปจนถึงการบรรจุ โดยมีผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบทุกขั้นตอน

วัสดุคุณภาพสูง

  • ไทเทเนียมและเซรามิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน
    ไทเทเนียมที่ใช้ในรากฟันเทียมถูกเลือกมาอย่างพิถีพิถัน เนื่องจากคุณสมบัติที่สามารถยึดติดกับกระดูกขากรรไกรได้อย่างสมบูรณ์แบบและไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง

การตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย

  • การตรวจสอบแบบ Real-Time
    ระหว่างการผลิต รากฟันเทียมแต่ละชิ้นถูกตรวจสอบอย่างละเอียด หลายขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้มีความแม่นยำและปลอดภัยสูงสุด

การวิจัยและพัฒนาต่อเนื่อง

  • การลงทุนในงานวิจัยระดับโลก
    บริษัทผู้ผลิตรากฟันเทียมชั้นนำ โดยเฉพาะแบรนด์จากยุโรป ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและศูนย์วิจัยชั้นนำเพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
  • การปรับปรุงคุณภาพอย่างไม่หยุดยั้ง
    งานวิจัยที่เน้นศึกษาความคงทนและความเข้ากันได้ทางชีวภาพ (Biocompatibility) ทำให้รากฟันเทียมมีอายุการใช้งานยาวนานและปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย

สรุป จะเลือกรากฟันเทียมยี่ห้อไหนดี

การเลือกรากฟันเทียมที่เหมาะสมควรพิจารณาทั้ง งบประมาณ, สุขภาพช่องปาก, และ คำแนะนำจากทันตแพทย์ เราไม่จำเป็นต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดในโลกแต่เลือกสิ่งที่เหมาะกับเรามากที่สุดในโลกต่างหาก

วิธีที่ดีที่สุดคือปรึกษาคุณหมอ เพื่อจะให้ได้คำตอบที่ดีที่สุดว่า รากเทียมไหนดีที่สุดกับกรณีของแต่ละคน เพราะนอกจากคุณภาพของรากฟันเทียมแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือ ผู้ที่ทำการรักษา ทันตแพทย์ต้องมีความชำนาญ มีประสบการณ์ สามารถที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ และมีความคุ้นเคยกับระบบที่เลือกใช้ค่ะ

One thought on “รากฟันเทียมยี่ห้อไหนดี แตกต่างกันอย่างไร ยี่ห้อไหนดีที่สุด เปรียบเทียบแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

  1. วรรณ์วณัช0832463942 says:

    เรียนปรึกษาเรื่องฟันเทียม

    สวัสดีคะ พอดีแฟนเป็นึนอังกฤษทำฟันเทียมมาจากที่นั้น ตอนนี้มีปัญหาฟันเกิดร้าว ต้องการรับการแก้ไข แต่ไม่แน่ใจที่โรงพยาบาลมีอุปกรณ์ของบริษัทที่ทางแฟนเปลี่ยนมาไหมคะ ขอแนบเอกสารเพื่อพิจารณา ทั้งนี้หากมีหรือไม่มีอย่างไร ทางเราจะสามารถเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลได้ไหมคะ ขอบคุณมากคะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *