รากฟันเทียมทั้งปากแบบ All-on-4:
การสูญเสียฟันทั้งหมดหรือฟันหลายซี่ในปากเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการบดเคี้ยวอาหาร การพูด หรือความมั่นใจในตัวเอง
ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางทันตกรรมได้พัฒนาวิธีการใหม่ที่เรียกว่า “รากฟันเทียมทั้งปากแบบ All-on-4 (All-on-4 Dental Implants)” ซึ่งกลายมาเป็นทางเลือกที่นิยมและได้ผลดีในการทดแทนฟันที่สูญเสียไปทั้งปาก
All-on-4 คืออะไร?
เทคนิค All-on-4 เป็นหนึ่งในเทคนิค ที่ใช้ในการใส่ฟันทั้งปากแบบติดแน่น โดยป็นเทคนิกที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมาก
เทคนิคการรักษาด้วยการฝังรากฟันเทียมลงไปในกระดูกขากรรไกรจำนวน 4 ราก เพื่อรองรับฟันปลอมแบบติดแน่น หรือสะพานฟัน โดยใช้สกรูยึดฟันปลอมหรือสะพานฟัน ไว้กับรากฟันเทียม ไม่ให้กระดก หรือ โยกไปมาได้เหมือนฟันปลอมทั่วๆไป ไม่จำเป็นต้องถอดออกมาทำความสะอาดเหมือนฟันปลอมปกติ
รากฟันเทียมแบบ All-on-4 จะใช้รากฟันเทียมเพียง 4 รากในการรองรับฟันปลอมทั้งขากรรไกร (ขากรรไกรบนหรือขากรรไกรล่าง) วิธีนี้ช่วยลดจำนวนรากฟันเทียมที่จำเป็น แต่ยังคงให้ความมั่นคงและทนทานเพียงพอที่จะใช้งานได้ในระยะยาว
ในเทคนิคนี้ ฟันปลอมจะถูกยึดติดกับรากฟันเทียมที่ทำจากวัสดุโลหะ เช่น ไทเทเนียม ซึ่งมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับกระดูกได้ดี ทำให้ฟันปลอมติดแน่นและไม่เลื่อนหลุดเมื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การพูดหรือการเคี้ยวอาหาร
ผู้ที่เหมาะกับการทำรากฟันเทียมทั้งปากแบบ All-on-4
- กระดูกต้องดี มีปริมาณเพียงพอที่สามารถใส่รากฟันเทียมได้
- โรคประจำตัวยังสามารถควบคุมได้
- ไม่มี parafunctional habit
- ใช้ฟันปลอมแล้วรู้สึกหลวม ใส่ไม่พอดี ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต
- ผู้ที่สัญเสียฟันแบบทั้งปาก ไม่ว่าจะเฉพาะฟันบน หรือ ฟันล่าง
- มีปัญหาโรคเหงือกและภาวะสูญเสียฟันในขั้นรุนแรง
- ผู้ที่มีปัญหาจากการทำฟันปลอมชนิดอื่น รวมทั้งฟันอาจโยกคลอนจนถึงขั้นจำเป็นต้องถอน
ข้อดีของการทำ All-on-4
1.ลดจำนวนรากฟันเทียมที่ต้องใช้:ในอดีตการใส่รากฟันเทียมทั้งปาก จะมีการใช้จำนวนรากฟันเทียมหลายรากต่อขากรรไกร โดยในบางกรณีจะใช้รากฟันเทียมหนึ่งรากต่อฟันหนึ่งซี่เลยทีเดียว แต่เทคนิก All-on-4 นี้ แทนที่จะใช้รากฟันเทียมหนึ่งตัวต่อฟันหนึ่งซี่ ใช้เพียง 4 รากเท่านั้นในการรองรับฟันปลอมทั้งขากรรไกร ทำให้การผ่าตัดน้อยลงและใช้เวลาในการฟื้นตัวเร็วขึ้น
2.ใช้เวลาในการฟื้นฟูสั้น หายเร็วขึ้น: เนื่องจากใช้รากฟันเทียมจำนวนน้อยกว่า และวิธีการรักษานั้นมีความแม่นยำ การหายและฟื้นตัวจากการผ่าตัดจึงใช้เวลาน้อยกว่าการทำรากฟันเทียมแบบดั้งเดิม
3.แข็งแรงสูง: ฟันปลอมที่ทันตแพทย์เลือกใช้ในเทคนิก All-on-4 มีความแข็งแรงสูงและสามารถใช้งานได้อย่างดี
4.ประหยัดค่าใช้จ่าย: การทำ All-on-4 เป็นทางเลือกที่มีต้นทุนต่ำกว่าการทำรากฟันเทียมแบบดั้งเดิมที่ต้องใส่รากฟันเทียมทีละซี่ และยังลดความจำเป็นในการผ่าตัดเพิ่มเติม เช่น การเสริมกระดูก
5.ฟันชุดถาวร ใช้งานได้เป็นธรรมชาติ
กระบวนการรักษาฟันทั้งปาก ด้วยเทคนิค All-on-4
การทำรากฟันเทียมแบบ All-on-4 เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบสภาพช่องปากอย่างละเอียดโดยทันตแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา หลังจากนั้นจะมีการเตรียมพื้นที่สำหรับการใส่รากฟันเทียม
ขั้นตอนหลักคือการผ่าตัดเพื่อติดตั้งรากฟันเทียมในตำแหน่งที่เหมาะสม ทันตแพทย์จะวางรากฟันเทียม 2 ตัวในแนวตั้งฉากที่ด้านหน้า และอีก 2 ตัวในมุมที่เฉียงอยู่ด้านหลัง(หรือถ้ากระดูกพอก็สามารถวางรากฟันเทียมตรงทั้งหมด) โดยจะเฉลี่ยระยะของรากฟันเทียมให้ห่างเท่าๆกัน ช่วยให้สามารถกระจายน้ำหนักการกัดได้ดี
หลังจากการผ่าตัด ทันตแพทย์จะทำฟันปลอมชั่วคราว ให้ใช้งานไปก่อนระหว่างรอให้รากฟันเทียมเชื่อมติดกับกระดูก หลังจากนั้นประมาณ 3-6 เดือน ผู้ป่วยจะได้รับฟันปลอมถาวรที่ดูเป็นธรรมชาติและทนทานมากขึ้น
ใครบ้างที่เหมาะสมกับ All-on-4?
เทคนิค All-on-4 เหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันทั้งขากรรไกร(ไม่มีฟันเหลือเลย)ไม่ว่าจะเป็นขากรรไกรบนหรือขากรรไกรล่าง หรือ ฟันที่เหลือสภาพไม่ดี ไม่สามารถรักษาได้อีกต่อไป(ต้องถอนฟันทั้งหมด)
ขั้นตอนการรักษารากเทียม All-on-4
- ซักประวัติทางการแพทย์, ตรวจสุขภาพเหงือก,ดูลักษณะโครงหน้า ดูสภาพช่องปากองค์รวม กระดูกรองรับฟัน, x-ray and CT Scan เพื่อดูปริมาณกระดูก, อวัยวะสำคัญและตำแหน่งของเส้นประสาท
- แพทย์จะวางแผนและคุยเรื่องแผนการรักษาเพื่ออธิบายวิธีการรักษา ผลลัพธ์ และความเป็นไปได้ในการรักษา
- แพทย์จะทำ computer guided stent เป็นแม่แบบในการวางตำแหน่งรากฟันเทียม
- ขั้นตอนการฝังรากฟันเทียม โดยแพทย์จะทำการถอนฟัน และใส่รากฟันเทียมในครั้งเดียว หลังจากนั้นรอประมาณ 4-6 เดือน เพื่อให้รากฟันเทียมยึดกับกระดูกอย่างแข็งแรง
- ขั้นตอนการใส่แผงฟันปลอม หรือสะพานฟันบนรากฟันเทียม และปรับแต่งฟันปลอมบน all-on-4 ให้เหมาะสมกับช่องปากและการสบฟัน
สรุป
รากฟันเทียมแบบ All-on-4 เป็นวิธีการที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูการใช้งานฟันสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันทั้งแผง ให้ความมั่นคง ทนทาน และมีลักษณะใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ ด้วยประโยชน์หลายประการและการดูแลรักษาที่ไม่ยุ่งยาก จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและได้รับความนิยมในปัจจุบัน