สุขอนามัยช่องปาก คือการดูแลรักษา ทำความสะอาดช่องปากเหงือก ลิ้น ฟัน ให้มีสุขภาพดี เพราะการมีสุขภาพช่องปากที่ดี ทำให้ สามารถบดเคี้ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี ร่างการสามารถเจริญเติบโตได้สมวัย โดยวันนี้มาทำความรู้จักกับเหงือกกันคะ
ลักษณะเหงือกที่สุขภาพดี คือ มีสีชมพูซีด ขอบบางเหมือนคมมีดแนบสนิทไปกับฟัน ไม่บวมแดงช้ำ
โรคเหงือกอักเสบ (gingivitis) คือโรคที่มีการอักเสบของเหงือก ทำให้เหงือกมีลักษณะบวม แดง คลำนิ่ม มีเลือดออกง่าย เมื่อมีปัจจัยส่งเสริมอื่นเพิ่มขึ้น จะลุกลามเป็นโรคปริทันต์อักเสบ (periodontitis)
โรคปริทันต์อักเสบ(periodontitis) คือโรคที่มีการอักเสบของอวัยวะปริทันต์ เหงือก เอ็นยึดปริทันต์ กระดูกเบ้าฟัน ทำให้ ฟันโยก ปวด บวม เป็นหนอง
สาเหตุการเกิดโรคเหงือกอักเสบและปริทันต์อักเสบ
เมื่อเราไม่ได้แปรงฟัน หรือแปรงฟันไม่สะอาด จะเกิดคราบจุลินทรีย์สะสมบริเวณตัวฟัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณคอฟัน เมื่อปล่อยให้เวลาผ่านไปคราบเหล่านี้จะหนามากขึ้น มีเชื้อโรคมาสะสมมากขึ้น และรวมตัวกับแร่ธาตุต่างๆในน้ำลาย จะทำให้เกิดคราบแข็งคล้ายหิน เรียกว่าหินปูน ซึ่งหินปูนนี้จะส่งเสริมการสะสมของคราบจุลินทรีย์เพิ่มขึ้นอีก เชื้อโรคต่างๆที่สะสมนี้ สามารถปล่อยสารพิษออกมา สารพิษนี้สามารถทำให้อวัยวะปริทันต์เกิดการอักเสบ ทำให้เกิดอาการบวม แดง เหงือกมีเลือดออกง่ายขึ้น เมื่อปล่อยให้ภาวะนี้ดำเนินต่อไป จะเกิดการทำลายอวัยวะปริทันต์รุนแรง มีการทำลายกระดูกรอบรากฟัน เกิดเหงือกร่น ฟันโยกในที่สุด
วิธีการรักษา
ถ้าเป็นโรคเหงือกอักเสบ ควรได้รับการขูดหินปูน ร่วมกับการดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีอยู่เสมอ โดยปกติแล้วแนะนำ พบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันและขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือน
ถ้าเป็นโรคปริทันต์อักเสบ ควรได้รับการขูดหินปูนร่วมกับการเกลารากฟัน และดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีอยู่เสมอ แนะนำพบทันตแพทย์ ทุก 3-6 เดือน
เคสนี้ ผู้ป่วยเป็นโรคปริทันต์อักเสบรุนแรง – ได้รับการรักษาโดยการขูดหินปูนและเกลารากฟันทั้งปาก
โดย ทพญ.ธันยมนต์ ขวัญเกื้อ