คนไข้เดินทางมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อมาทำรากฟันเทียมติดแน่น
คนไข้บอกว่าทนทรมานกับฟันปลอมแบบพลาสติกแบบถอดได้เข้า-ออกได้มาทำ ทำให้ไม่มีความสุข
ทานอะไรก็ทานได้แต่นิ่มๆ อยากกลับมาทำอาหารปกติ ก็ยากแสนเข็ญ
แถมออกไปเจอเพื่อนก็ไม่กล้าไปเพราะอาย!
วันแรก วันที่ปรึกษาที่คลินิก
จากการตรวจในช่องปาก พบว่าคนไข้เหลือฟันเพียงซี่เดียว เป็นฟันกรามหลัง ซึ่งเก็บเอาไว้เกี่ยวกับตะขอทำให้ฟันปลอมถอดได้พอยึดอยู่ในช่องปากได้เท่านั้น
หมอจึงทำการเอกซเรย์ดิจิตอล 3D CBCT เพื่อตรวจดูกระดูก
พบว่ากระดูกของคนไข้ ยุบไปพอสมควรเพราะถอนฟันนไปนาน และใส่ฟันปลอม(ฟันปลอมมักมีแรงกดทำให้สันกระดูกละลายเร็วขึ้น)
และทำการแสกนช่องปากด้วยเครื่องแสกนสามมิติ 3Shapes
วางแผนการรักษาด้วยรากฟันเทียม แบบ All-on-4
เคสนี้ถึงกระดูกจะยุบไปพอสมควร แต่ก็ยังพอมีที่สำหรับการใส่รากฟันเทียมได้อยู่
หมอจึงวางแผนที่จะทำ รากฟันเทียมแบบ All-on-4 ซึ่งเป็นการทำรากฟันเทียมเพื่อยึดฟันปลอมแบบติดแน่น
ที่ใช้จำนวนรากฟันเทียมน้อยที่สุด เพียง 4 ราก (ขากรรไกรบน แนะนำให้ใช้อย่างน้อย 4 ราก แต่ถ้ามีกระดูกดี อาจจะเพิ่มเป็น 6 หรือ 8 รากก็ได้)
ครั้งที่2 วันที่ทำการผ่าตัด
หมอทำการผ่าตัดภายใต้ยาชาเฉพาะที่(ฉีดยาชา) โดยทำการใส่รากฟันเทียม ผ่านระบบ Neonavi guided
ใช้รากฟันเทียมสี่ราก โดยใช้ สองรากตรง (บริเวณฟันหน้า) และสองรากเอียง(บริเวณฟันหลัง)
เคสนี้ไม่ได้ทำการปลูกกระดูก เนื่องจากฐานกระดูกหนาเพียงพอสำหรับความแข็งแรงของรากฟันเทียมในระยะยาว
และไม่ได้ยกไซนัสและปลูกกระดูก เนื่องจากใช้การปักรากฟันเทียมเอียงหลบไซนัส
และทำการ Drill แบบ Osseodensification ด้วย Densah Bur
ทำให้ได้รากฟันเทียมที่มี ความแน่น Primary Stability ที่ดีพอ
จึงทำการต่อฟันชั่วคราวทันทีในวันเดียวกัน (Immediate loading) โดยใช้ฟันปลอมถอดได้เดิมของคนไข้ มาเชื่อมกับราากฟันเทียมที่เพิ่งใส่ไป
การดูแลหลังการผ่าตัดรากฟันเทียมแบบ All-on-4
หลังจากที่คนไข้ได้ฟันไป ต้องมีข้อปฏิบัติที่ค่อนข้างเคร่งครัด คือ
- ต้องดูแลรักษาความสะอาดของแผล
- ทานยาตามที่สั่ง
- ห้ามรับประทานของแข็งและเหนียวตลอดสองเดือน
- อาหารที่จะทานได้จะเป็นอาหารเหลว เช่น ซุป หรือ กึ่งแข็งกึ่งเหลว เช่น ข้าวต้ม
ส่วนการตัดไหม หมอใช้เป็นไหมละลายทั้งหมด จึงไม่ได้ตัดไหม่ค่ะ
——————————————รออีกสามเดือน——————————————————
ครั้งที่ 3 พิมพ์ปากบนรากฟันเทียม
เมื่อกลับมาเจอกัน ก็ถึงขั้นตอนการทำฟันชุดถาวรติดแน่นบนรากฟันเทียม
เคสนี้เลือกวัสดุเป็น Hybrid Arcylic on metal framework
ซึ่งจะมีการทำโครงโลหะ ยึดกับรากฟันเทียมที่แข็งแรงแล้วทั้งหมด จากนั้นส่วนของฟันนปลอมจะเป็นเนื้ออะคริลิก
ข้อดีของแบบนี้คือ น้ำหนักเบา แข็งแรง ซ่อมแซมง่าย
—————————————— 1สัปดาห์ ——————————————————
ครั้งที่ 4 ลองโครง
ใช้เวลา 30-60 นาที
หมอจะถอดฟันชุดชั่วคราวออก แล้วทำการลองโครงที่ได้มาจากแลป เพื่อให้มั่นใจว่าโครงไม่มีกระดก และวางบนรากฟันเทียมได้อย่างพอดี และทำการบันทึกการสบฟัน
จากนั้นใส่ฟันชุดชั่วคราวให้คนไข้กลับบ้าน
—————————————— 1สัปดาห์ ——————————————————
ครั้งที่ 5 ลองฟัน
ใช้เวลา 30 นาที
หมอจะลองฟันชุดใหม่ ให้คนไข้ลองใส่ ยิ้ม ออกเสียง
ฟันชุดนี้จะวางบนขี้ผึ้งสีชมพู ทำให้หมอสามารถ ปรับและขยับฟันได้อย่างอิสระ ถ้าคนไข้อยากได้รูปร่างหรือเปลี่ยนตำแหน่ง หมอจะสามารถปรับได้
เมื่อคนไข้พอใจกับรอยยิ้มที่ได้แล้ว ก็จะใส่ฟันชั่วคราวกลับไปให้คนไข้
—————————————— 1สัปดาห์ ——————————————————
ครั้งที่ 6 ใส่ฟัน
ใช้เวลา 30-60 นาที
หลังจากที่ได้ฟันชุดจริงแล้ว หมอจะทำการถอดชั่วคราว ล้างทำความสะอาด Abutment ของรากฟันเทียม จาากนั้นทำการยึดแน่นด้วย Miniscrew
แล้วทำการปิดรูสกรูด้วย เทป PTFE และอุดปิดเป็นนอันเรียบร้อย
Nightguard หมอจะแนะนำให้คนไข้ทำ nightguard ซึ่งเป็น ฟันยางนิ่มๆ ไว้ใส่เพื่อป้องกันการกัดฟัน และป้องกันฟันอะคริลิกแตก
——————————————————————————————-
จากนั้นจะแนะนำให้คนไข้มาตรวจเช็คที่3-6 เดือนค่ะ
Credit
รากฟันเทียม Neobiotech
Computer guided system : Neonavi guided
Densah Bur : Versah
Dental Lab : BN Dental Lab
เคสนี้ประมาณ 210,000 บาทค่ะ